แจกฟรี 9 ชุดคำสั่ง Prompt ChatGPT สร้างข้อสอบ แบบทดสอบออนไลน์ ช่วยครูและ HR ลดเวลาทำงาน ได้คำถามคุณภาพสูง พร้อมเทคนิคขั้นสูงที่ไม่เคยบอกที่ไหน อ่านเลย
9 คำสั่งลับ Prompt ChatGPT สร้างข้อสอบและแบบทดสอบระดับเทพ ช่วยครูและ HR ลดเวลาทำงานทันที
9 คำสั่งลับ Prompt ChatGPT สร้างข้อสอบและแบบทดสอบระดับเทพ ช่วยครูและ HR ลดเวลาทำงานทันที
คุณเคยรู้สึกไหมครับว่า งานสอนหรืองานอบรมเนี่ย ตอนพูดยืนสอนหน้าห้องมันช่างสนุกและมีความสุข แต่พอถึงเวลาต้องกลับบ้านไปนั่ง ออกข้อสอบ หรือทำแบบทดสอบเพื่อวัดผลผู้เรียน มันกลับกลายเป็นเหมือนฝันร้ายที่คอยหลอกหลอนวันหยุดพักผ่อนของคุณ?
ไม่ว่าจะเป็นคุณครูที่ต้องเตรียมข้อสอบกลางภาค ติวเตอร์ที่ต้องทำแบบฝึกหัดใหม่ๆ ให้นักเรียน หรือแม้แต่ฝ่ายบุคคล (HR) ที่ต้องทำแบบทดสอบหลังการอบรมพนักงาน ปัญหาเดิมๆ ที่เราเจอกันทุกคนคือ สมองตื้อ คิดโจทย์ไม่ออก กลัวข้อสอบจะยากไปหรือง่ายไป หรือแม้กระทั่งเสียเวลาจัดหน้ากระดาษเป็นวันๆ กว่าจะได้ข้อสอบสักชุด
แต่ข่าวดีก็คือ ในยุคปัจจุบันเรามีผู้ช่วยอัจฉริยะอย่าง ChatGPT ครับ ซึ่งถ้าหากเราใช้งานมันเป็น มันจะไม่ใช่แค่เครื่องมือถามตอบธรรมดาๆ แต่มันจะเปรียบเสมือน "ผู้ช่วยศาสตราจารย์ส่วนตัว" ที่สามารถช่วยคุณร่างข้อสอบคุณภาพสูงได้ภายในเวลาไม่กี่วินาที
แต่ช้าก่อน! การพิมพ์แค่ว่า "ช่วยออกข้อสอบภาษาอังกฤษ 10 ข้อ" นั้นไม่เพียงพอครับ และมักจะได้ข้อสอบที่ "ตื้นเขิน" หรือ "ใช้งานจริงไม่ได้" บทความนี้ผมจะไม่สอนให้คุณใช้คำสั่งพื้นฐานเหล่านั้น แต่เราจะพาคุณไปเจาะลึก 9 คำสั่ง (Prompts) ระดับสูง ที่ผมเขียนและคัดมาให้อย่างละเอียด เพื่อให้คุณได้ข้อสอบที่วัดผลได้จริง มีความลึกซึ้ง และประหยัดเวลาการทำงานของคุณไปได้กว่า 90% เตรียมตัวให้พร้อม แล้วมาปลดล็อกพลัง AI ไปพร้อมกันครับ
ทำไมต้องใช้ ChatGPT ช่วยสร้างข้อสอบ?
ก่อนที่เราจะไปดูคำสั่ง เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่าทำไมครูอาจารย์และนักสร้างสรรค์เนื้อหาทั่วโลกถึงหันมาใช้ AI ช่วยออกข้อสอบ มันไม่ใช่แค่เรื่องของความ "ขี้เกียจ" นะครับ แต่มันคือเรื่องของ "ประสิทธิภาพ" และ "คุณภาพ" ล้วนๆ
ประหยัดเวลาอย่างมหาศาล: งานที่เคยใช้เวลา 3-4 ชั่วโมงในการค้นหาข้อมูลและร่างโจทย์ สามารถเสร็จได้ใน 5 นาที ทำให้คุณมีเวลาไปโฟกัสกับการดูแลนักเรียนรายบุคคลได้มากขึ้น
ความหลากหลายของโจทย์: มนุษย์เรามักจะมีรูปแบบการคิดที่ตายตัว (Bias) ทำให้ข้อสอบออกมาแนวเดิมๆ ซ้ำๆ แต่ AI สามารถเสนอแนะมุมมองใหม่ๆ สถานการณ์จำลองที่แปลกใหม่ หรือ ตัวลวง (Distractors) ที่เราอาจนึกไม่ถึง
ปรับระดับความยากง่ายได้ดั่งใจ: คุณสามารถสั่งให้ AI ปรับข้อสอบชุดเดียวกันให้เป็นเวอร์ชันสำหรับเด็กประถม หรือเวอร์ชันสำหรับผู้บริหารระดับสูงได้เพียงแค่แก้คำสั่งนิดเดียว
ลดความผิดพลาดในการพิมพ์: แม้ AI อาจจะมีข้อมูลผิดบ้างในบางเรื่อง (ซึ่งเราต้องตรวจสอบ) แต่อย่างน้อยรูปแบบไวยากรณ์ หรือโครงสร้างประโยค โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ มักจะมีความแม่นยำสูงมากครับ
สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนเริ่มเขียน Prompt
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด การคุยกับ AI ก็เหมือนการสั่งงานผู้ช่วยคนใหม่ครับ คุณต้องระบุความต้องการให้ชัดเจน สิ่งที่คุณควรมีในใจก่อนพิมพ์คำสั่งคือ:
บทบาท (Persona): คุณอยากให้ AI คิดในมุมมองของใคร? (เช่น ครูอนุบาล, ศาสตราจารย์มหาวิทยาลัย, ผู้จัดการฝ่ายขาย)
กลุ่มเป้าหมาย (Target Audience): คนทำข้อสอบคือใคร? ระดับความรู้แค่ไหน?
วัตถุประสงค์ (Objective): ต้องการวัดความจำ, ความเข้าใจ, หรือการนำไปใช้?
รูปแบบ (Format): ปรนัย, อัตนัย, จับคู่ หรือ เติมคำ?
เจาะลึก 9 คำสั่ง (Prompts) สร้างข้อสอบระดับสูง
นี่คือหัวใจสำคัญของบทความนี้ครับ ผมได้รวบรวมและทดสอบชุดคำสั่ง Prompt ที่ออกแบบมาให้ครอบคลุมบริบทที่ชัดเจน เพื่อให้คุณ Copy และนำไปปรับใช้ได้ทันที
Prompt ที่ 1: สร้างข้อสอบปรนัย (Multiple Choice) วัดการวิเคราะห์
ปัญหาของการออกข้อสอบช้อยส์คือ "ตัวหลอกไม่เนียน" ทำให้ผู้สอบเดาคำตอบได้ง่าย คำสั่งนี้จะเน้นให้ AI สร้างตัวหลอกที่มีเหตุผลรองรับ และวัดกึ๋นของผู้เรียนจริงๆ
Prompt:
"รับบทเป็นอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ไทยและการเมืองการปกครอง
ภารกิจ: สร้างข้อสอบปรนัย (Multiple Choice) จำนวน 5 ข้อ เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475
กลุ่มเป้าหมาย: นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
ข้อกำหนด:
1. โจทย์ต้องเน้น 'การวิเคราะห์สาเหตุและผลกระทบ' ไม่เอาคำถามความจำจำพวก ปี พ.ศ. หรือชื่อคนตรงๆ
2. มีตัวเลือก 4 ตัวเลือก (ก, ข, ค, ง)
3. ตัวหลอก (Distractors) ต้องมีความเป็นไปได้และใกล้เคียงกับความจริง เพื่อวัดความเข้าใจที่แท้จริง
4. เฉลยคำตอบที่ถูกต้อง
5. อธิบายเหตุผลประกอบอย่างละเอียดว่าทำไมข้อนี้ถึงถูก และทำไมข้ออื่นถึงผิด เพื่อใช้สำหรับการเฉลยให้นักเรียนเข้าใจ"
ทำไมต้องใช้คำสั่งนี้: เพราะการเรียนรู้ที่ดีที่สุดเกิดขึ้นตอน "เฉลย" ครับ คำสั่งนี้จะช่วยให้คุณมีสคริปต์สำหรับอธิบายเด็กๆ ได้ทันทีว่าทำไมกาข้อ ก. ถึงผิด
Prompt ที่ 2: สร้างข้อสอบถูก/ผิด พร้อมคำอธิบายแก้ไข
ข้อสอบถูกผิดมักจะถูกมองว่าง่าย แต่ถ้าเราออกแบบให้วัด Concept หรือความเข้าใจผิดที่พบบ่อย (Common Misconceptions) มันจะเป็นเครื่องมือวัดผลที่ดีมากครับ
Prompt:
"รับบทเป็นนักวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม
ภารกิจ: สร้างแบบทดสอบ True/False จำนวน 10 ข้อ ในหัวข้อ 'ภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ'
กลุ่มเป้าหมาย: ประชาชนทั่วไป
ข้อกำหนด:
1. ข้อความต้องเป็นเรื่องที่คนมักเข้าใจผิดบ่อยๆ (Common Misconceptions) หรือเรื่องที่มีความซับซ้อน
2. ห้ามใช้ประโยคปฏิเสธซ้อนปฏิเสธที่ทำให้อ่านแล้วงง
3. รูปแบบการตอบกลับ:
- ข้อความโจทย์
- คำตอบ (ถูก หรือ ผิด)
- คำอธิบายแก้ไข: หากข้อนั้นผิด ให้ระบุข้อมูลที่ถูกต้อง หากข้อนั้นถูก ให้ขยายความเพิ่มเติมว่าทำไมถึงจริง พร้อมยกตัวอย่างสั้นๆ"
Prompt ที่ 3: สร้างข้อสอบจับคู่ (Matching) วัดความแม่นยำ
เหมาะมากสำหรับวิชาที่ต้องจำศัพท์เทคนิค หรือการจับคู่ทฤษฎีกับนักคิด คำสั่งนี้จะช่วยสร้างตัวลวงที่ทำให้ข้อสอบดูเป็นมืออาชีพขึ้น
Prompt:
"รับบทเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดดิจิทัล (Digital Marketing Specialist)
ภารกิจ: สร้างข้อสอบจับคู่จำนวน 10 คู่ เกี่ยวกับ 'ศัพท์เทคนิคทางการตลาด (Marketing Terminology)' เช่น SEO, SEM, CPC, CTR, Lead Generation ฯลฯ
ข้อกำหนด:
1. คอลัมน์ A เป็นคำศัพท์
2. คอลัมน์ B เป็นคำนิยาม หรือ สถานการณ์ตัวอย่างสั้นๆ
3. คำนิยามต้องไม่ใช้คำทับศัพท์ของคำศัพท์นั้นๆ (เช่น ห้ามแปล SEO ว่า การทำ SEO แต่ให้อธิบายความหมาย)
4. สร้างตัวหลอกในคอลัมน์ B เพิ่มมา 2 ตัวเลือก ที่ไม่มีคู่ เพื่อป้องกันการเดาจากการตัดตัวเลือก
5. แสดงเฉลยแบบจับคู่ที่ถูกต้องตอนท้าย"
Prompt ที่ 4: สร้างข้อสอบเติมคำ (Cloze Test) วิชาภาษา
ครูสอนภาษาอังกฤษหรือภาษาที่สาม จะชอบคำสั่งนี้มาก เพราะสามารถสร้างแบบฝึกหัดได้ไม่รู้จบจากบทความที่น่าสนใจ
Prompt:
"รับบทเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ (English Teacher) ระดับ IELTS
ภารกิจ: เขียนบทความสั้นๆ ความยาวประมาณ 150 คำ เกี่ยวกับ 'ประโยชน์ของเทคโนโลยี AI ในชีวิตประจำวัน'
ข้อกำหนด:
1. ภาษาที่ใช้ต้องอยู่ในระดับ B2-C1 (Upper Intermediate to Advanced)
2. เมื่อเขียนบทความเสร็จ ให้สร้างแบบฝึกหัด Cloze Test โดยการเว้นช่องว่าง (Blank) จำนวน 10 ช่อง
3. คำที่ถูกเว้นว่างต้องเป็นคำศัพท์สำคัญ (Keywords), คำเชื่อม (Conjunctions) หรือ กริยาวลี (Phrasal Verbs) เท่านั้น
4. แสดงรายการคำศัพท์ (Word Bank) ที่จะนำมาเติม โดยมีคำหลอกเพิ่มมา 3 คำ
5. เฉลยคำตอบพร้อมระบุ Part of Speech ของคำนั้นๆ"
รับข้อมูล 100 AI Tools! อัพเดทล่าสุดที่อาจารย์เบนซ์คัดมาให้
Prompt ที่ 5: สร้างสถานการณ์จำลอง (Case Study) แก้ปัญหาจริง
นี่คือคำสั่งระดับสูงที่เหมาะกับการอบรมพนักงาน หรือการเรียนระดับมหาวิทยาลัยที่ต้องการวัดทักษะการนำไปใช้ (Application)
Prompt:
"รับบทเป็นที่ปรึกษาด้านการบริหารจัดการร้านอาหาร
ภารกิจ: สร้างโจทย์สถานการณ์จำลอง (Case Study) 1 เรื่อง เกี่ยวกับ 'การจัดการข้อร้องเรียนลูกค้า (Customer Complaint Management)'
รายละเอียด:
- สถานการณ์: ลูกค้าพบสิ่งแปลกปลอมในอาหารและโวยวายเสียงดังกลางร้านในช่วงเวลาที่ลูกค้าแน่นร้าน
- สิ่งที่ต้องมีในโจทย์: ข้อมูลบริบทของร้าน, อารมณ์ของลูกค้า, และปฏิกิริยาของพนักงานคนอื่นๆ
คำถามท้ายบท:
1. จงระบุสิ่งที่ผู้จัดการร้านต้องทำเป็นอันดับแรกทันที
2. จงเขียนบทสนทนา (Script) ที่ผู้จัดการควรพูดกับลูกค้าเพื่อระงับอารมณ์
3. เสนอแนวทางการชดเชยที่เหมาะสมและไม่ทำให้ร้านขาดทุนจนเกินไป
ข้อกำหนด: ขอแนวคำตอบ (Guideline Answer) สำหรับแต่ละข้อด้วย โดยอ้างอิงหลักการ Service Mind และ Crisis Management"
Prompt ที่ 6: เปลี่ยนเนื้อหาบทเรียนให้เป็นควิซ (Content to Quiz)
หากคุณมีเนื้อหาอยู่แล้ว และไม่อยากคิดโจทย์เอง ให้ AI อ่านเนื้อหาของคุณแล้วตั้งคำถามให้ วิธีนี้ช่วยทวนความรู้ได้ดีที่สุดครับ
Prompt:
"รับบทเป็นผู้ช่วยสอน
คำสั่ง: ฉันจะวางบทความเรื่อง 'ประวัติศาสตร์อยุธยาตอนปลาย' ลงไปข้างล่างนี้ (ใส่เนื้อหาของคุณที่นี่...)
ภารกิจ:
1. สรุปใจความสำคัญของบทความเป็น Bullet points จำนวน 5 ข้อ
2. จากเนื้อหานั้น ให้สร้างคำถามแบบปรนัย (4 ตัวเลือก) จำนวน 5 ข้อ ที่ครอบคลุมเนื้อหาสำคัญที่สุด
3. สร้างคำถามปลายเปิด 1 ข้อ ที่ชวนให้ผู้เรียนคิดต่อยอดจากเนื้อหา
ข้อควรระวัง: คำถามและคำตอบต้องอ้างอิงจากเนื้อหาที่ให้ไปเท่านั้น ห้ามนำข้อมูลภายนอกมาปน เพื่อทดสอบการอ่านจับใจความจริงๆ"
Prompt ที่ 7: สร้างข้อสอบตามระดับ Bloom’s Taxonomy
ยกระดับความเป็นครูมืออาชีพด้วยการออกข้อสอบที่วัดระดับสติปัญญาครบทุกด้าน ไม่ใช่แค่ความจำ
Prompt:
"รับบทเป็นนักออกแบบหลักสูตรการศึกษา
ภารกิจ: สร้างชุดคำถามเกี่ยวกับเรื่อง 'การสังเคราะห์ด้วยแสง (Photosynthesis)' จำนวน 6 ข้อ โดยแต่ละข้อต้องตรงกับระดับของ Bloom’s Taxonomy ดังนี้:
1. Remembering (ความจำ): ถามนิยาม
2. Understanding (ความเข้าใจ): ให้อธิบายหลักการ
3. Applying (การประยุกต์ใช้): ยกตัวอย่างสถานการณ์
4. Analyzing (การวิเคราะห์): เปรียบเทียบความแตกต่าง
5. Evaluating (การประเมินค่า): ให้เหตุผลโต้แย้งหรือสนับสนุน
6. Creating (การสร้างสรรค์): ออกแบบการทดลองใหม่
ข้อกำหนด: ระบุระดับ Bloom ไว้หน้าข้อสอบแต่ละข้อ และขอเฉลยแนวทางคำตอบ"
Prompt ที่ 8: สร้างเกณฑ์การให้คะแนน (Rubric Scoring)
การตรวจข้อสอบอัตนัยเป็นเรื่องยากที่จะให้คะแนนอย่างยุติธรรม ให้ AI ช่วยร่างเกณฑ์ให้ชัดเจน เพื่อมาตรฐานที่ตรวจสอบได้
Prompt:
"รับบทเป็นหัวหน้าภาควิชาภาษาไทย
ภารกิจ: สร้างเกณฑ์การให้คะแนนแบบ Rubric Score สำหรับหัวข้อ 'การเขียนเรียงความเรื่อง ปัญหาสิ่งแวดล้อมในชุมชน'
คะแนนเต็ม: 20 คะแนน
ข้อกำหนด: แบ่งเกณฑ์เป็น 4 ด้าน (ด้านละ 5 คะแนน) ได้แก่
1. เนื้อหาและความตรงประเด็น
2. การใช้ภาษาและไวยากรณ์
3. การลำดับความคิดและการเชื่อมโยง
4. ความคิดสร้างสรรค์และการเสนอแนวทางแก้ไข
ให้ทำเป็นตารางอธิบายรายละเอียดของการได้คะแนนในแต่ละระดับ (ดีมาก, ดี, พอใช้, ปรับปรุง) ว่างานต้องมีลักษณะอย่างไรถึงจะได้คะแนนในระดับนั้นๆ"
Prompt ที่ 9: แปลงข้อสอบเป็นตาราง (Export to CSV)
ข้อนี้คือสุดยอดเทคนิคประหยัดเวลา! เมื่อได้ข้อสอบแล้ว ไม่ต้องมานั่ง Copy-Paste ทีละข้อเพื่อลงระบบ LMS
Prompt:
"จากข้อสอบปรนัยทั้ง 10 ข้อที่เราสร้างกันมาข้างต้น
ภารกิจ: ช่วยจัดรูปแบบข้อมูลใหม่ให้อยู่ในรูปแบบ CSV Format เพื่อให้ฉันสามารถนำไป Import เข้าโปรแกรม Google Forms หรือ LMS ได้ง่ายๆ
รูปแบบคอลัมน์ที่ต้องการ:
Question Text, Option 1, Option 2, Option 3, Option 4, Correct Answer, Feedback/Explanation
ข้อกำหนด: ไม่ต้องใส่เลขข้อ ใส่เครื่องหมายจุลภาค (,) คั่นระหว่างข้อมูลให้ถูกต้อง และใส่เครื่องหมายคำพูดครอบข้อความที่มีเว้นวรรค"
เทคนิคการปรับจูน Prompt ให้แม่นยำยิ่งขึ้น
การมี Prompt ที่ดีเปรียบเสมือนมีรถแข่งสมรรถนะสูง แต่การจะขับให้เข้าเส้นชัย คุณต้องรู้วิธีบังคับมันด้วยครับ ต่อไปนี้คือเทคนิคเพิ่มเติมที่จะทำให้คุณใช้งาน ChatGPT ออกข้อสอบ ได้ดียิ่งขึ้น:
ใส่บริบท (Context) ให้ชัดเจนเสมอ: อย่าพูดลอยๆ ว่า "ออกข้อสอบเลข" แต่ให้ระบุว่า "ออกข้อสอบคณิตศาสตร์ เรื่องเศษส่วน สำหรับเด็ก ป.4 ที่อ่อนเรื่องการคูณ" ยิ่งคุณให้รายละเอียดเรื่องกลุ่มเป้าหมายมากเท่าไหร่ AI จะยิ่งปรับภาษาและความยากง่ายได้แม่นยำเท่านั้น
ระบุรูปแบบผลลัพธ์ (Output Format): ถ้าคุณต้องการตาราง บอกให้ AI สร้างตาราง ถ้าต้องการแค่ตัวโจทย์ บอกให้มันแยกส่วนโจทย์กับเฉลยออกจากกัน เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องมานั่งลบเฉลยก่อนเอาไปแจกนักเรียน
ตรวจสอบความถูกต้อง (Fact-Checking): นี่คือกฎเหล็กครับ AI เก่งเรื่องภาษาและโครงสร้าง แต่บางครั้งอาจพลาดเรื่องข้อเท็จจริง (Hallucination) โดยเฉพาะตัวเลขสถิติ กฎหมาย หรือเหตุการณ์ปัจจุบันมากๆ ครูผู้สอนต้องอ่านทวนเฉลยทุกครั้งก่อนนำไปใช้
ใช้ภาษาอังกฤษอาจได้ผลดีกว่าในบางวิชา: สำหรับวิชาเฉพาะทาง เช่น โปรแกรมมิ่ง หรือ วิทยาศาสตร์ขั้นสูง การใช้ Prompt ภาษาอังกฤษมักให้ผลลัพธ์ที่ลึกซึ้งกว่า แต่สำหรับวิชาสังคม ภาษาไทย หรือบริบทไทยๆ การใช้ Prompt ภาษาไทย (แบบที่ผมให้ตัวอย่างไป) ก็ทำงานได้ยอดเยี่ยมแล้วครับ
ข้อควรระวัง: สิ่งที่ AI ยังแทนครูไม่ได้
แม้ ChatGPT จะช่วยร่างข้อสอบได้ดีแค่ไหน แต่มันไม่มีทางเข้าใจ "นักเรียนของคุณ" ได้ดีเท่าคุณครับ มันไม่รู้ว่าเมื่อวานในห้องเรียนคุณเน้นย้ำเรื่องอะไรเป็นพิเศษ หรือเด็กห้องนี้ชอบมุกตลกแบบไหน ดังนั้น จงใช้ AI เป็นเพียง "ผู้ช่วยร่าง" (Drafter) ไม่ใช่ "ผู้ตัดสินใจ" (Decision Maker) หน้าที่การคัดเลือก ปรับแต่ง และใส่จิตวิญญาณความเป็นครูลงไป ยังคงเป็นหน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์ของคุณครับ
บทสรุป
การใช้ Prompt ChatGPT สร้างข้อสอบ ไม่ใช่การลดทอนคุณภาพของการศึกษาครับ แต่เป็นการปลดล็อกเวลาอันมีค่าของคุณครูและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อให้คุณได้เอาเวลาเหล่านั้นไปโฟกัสกับสิ่งที่สำคัญกว่า นั่นคือ "การดูแลและพัฒนาผู้เรียน" ครับ
ลองนำ 9 คำสั่งนี้ไปปรับใช้ดูนะครับ เริ่มจากข้อที่ง่ายที่สุดก่อน แล้วคุณจะพบว่าการออกข้อสอบที่เคยใช้เวลาทั้งวันเสาร์-อาทิตย์ อาจเสร็จได้ภายในเวลาแค่จิบกาแฟแก้วเดียว โลกการศึกษากำลังเปลี่ยนไป และคุณคือผู้นำการเปลี่ยนแปลงนั้น เริ่มต้นวันนี้เลยครับ!
คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
1. ข้อสอบที่ได้จาก ChatGPT มีลิขสิทธิ์หรือไม่?
ปัจจุบันเนื้อหาที่สร้างจาก AI ยังไม่มีลิขสิทธิ์ที่ชัดเจน (Public Domain) คุณสามารถนำไปใช้ ปรับปรุง และเผยแพร่เพื่อการศึกษาได้โดยไม่ผิดกฎหมาย แต่ไม่ควรนำไปอ้างว่าเป็นผลงานการเขียนของคุณเอง 100% หากทำขายในเชิงพาณิชย์ครับ
2. ChatGPT ภาษาไทยเก่งพอที่จะออกข้อสอบวิชาภาษาไทยได้ไหม?
เก่งพอสมควรครับ แต่อาจจะมีปัญหาบ้างในเรื่องวรรณคดีลึกซึ้ง หรือคำราชาศัพท์ที่ซับซ้อน แนะนำให้ตรวจสอบความถูกต้องของภาษาอีกครั้ง แต่ถ้าเป็นวิชาสังคม ประวัติศาสตร์ หรือความรู้ทั่วไป ทำได้ดีมากครับ
3. ถ้าอยากได้ข้อสอบที่มีรูปภาพประกอบ ต้องทำอย่างไร?
ChatGPT เวอร์ชัน Plus (GPT-4) สามารถสร้างรูปภาพได้ครับ แต่ยังไม่เหมาะกับการสร้างไดอะแกรมทางวิทยาศาสตร์ที่ต้องเป๊ะมากๆ แนะนำให้ใช้ ChatGPT คิดโจทย์ แล้วคุณไปหารูปภาพประกอบจากแหล่งอื่นจะแม่นยำกว่าครับ
4. จะป้องกันไม่ให้นักเรียนใช้ ChatGPT ทำข้อสอบที่เราสร้างจาก ChatGPT ได้อย่างไร?
นี่คือสงคราม AI ครับ! วิธีแก้คือเน้นข้อสอบที่ต้องใช้การวิเคราะห์ ประสบการณ์ส่วนตัว หรือการอ้างอิงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเฉพาะในห้องเรียน ซึ่ง AI ภายนอกจะไม่รู้ข้อมูลนั้น (ลองใช้ Prompt ที่ 5 เรื่อง Case Study ดูครับ)
5. ควรใช้ GPT-3.5 (ฟรี) หรือ GPT-4 (เสียเงิน) ในการออกข้อสอบ?
ถ้าเป็นข้อสอบพื้นฐานทั่วไป ตัวฟรีทำได้ครับ แต่ถ้าต้องการข้อสอบที่ซับซ้อน มีการวิเคราะห์ตรรกะสูงๆ หรือข้อสอบภาษาไทยที่สละสลวย แนะนำ GPT-4 จะให้ผลลัพธ์ที่ฉลาดกว่าและผิดพลาดน้อยกว่ามากครับ
6. มี AI ตัวอื่นแนะนำนอกจาก ChatGPT ไหม?
มีครับ เช่น Claude 3 (เก่งภาษาและการเขียนที่เป็นธรรมชาติมาก), Gemini (เชื่อมต่อกับข้อมูล Google ได้ดี), หรือ Perplexity (เหมาะสำหรับค้นหาข้อมูลอ้างอิงมาทำข้อสอบ) แต่ ChatGPT ยังคงเป็นตัวที่ใช้งานง่ายและยืดหยุ่นที่สุดสำหรับการเริ่มต้นครับ
อยากเรียนรู้เทคนิคการใช้ ChatGPT ขั้นเทพเพิ่มเติม?
หากคุณต้องการเจาะลึกการใช้ AI เพื่อการศึกษาและการทำงานแบบจับมือทำ สามารถไปดูคอร์สเรียน ChatGPT เพิ่มเติมได้ที่ลิงค์นี้ครับ
https://www.benziogpt.com/courses